ปิดเทอมปีนี้ เป็นช่วงเวลาปิดเทอมที่พิเศษกว่าทุกปี
นี่ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ได้ได้เงินล้านจากโออิชิ
แต่ได้หยุดอยู่บ้านยาวๆไปเลย 3 เดือน!
เพราะปีนี้ไม่ได้เรียนซัมเมอร์
ไม่ใช่ว่าเก็บหน่วยกิตไปเยอะ หรือว่างอะไรแบบนั้น นี่ลงเรียนไม่ทันจ้า (_ _)
จะลงแล้วแหละ แต่มันลงไม่ทันนนนนน เขาเปิดให้รหัสพวกพี่ๆ 501-xxxx 51 52 53
ลงกันไปก่อน กว่าจะถึง 541-xxxx ก็เงิบกันไปจ้ะ เขาลงกันไปหมดแล้ว
เต็มหมดทุกเซ็คแล้ว ...
จะให้ไปยืนรอแอดก็ไม่เอา ติดขี้เกียจ เลยตัดสินใจเสร็จสรรพ ปีนี้จะไม่เรียนซัมเมอร์!
วะฮะฮ่า นี่กะพักยาว หยุดยาววว
แต่!
อยากลองเปิดประสบการณ์โลกกว้าง ให้อยู่เฉยๆไปอีกสามเดือน
ง่อยแน่ๆ กินนอน กลิ้งนอน กระดึ้บนอน คงไม่โอเค
เลยลองไปสมัครงานพาร์ทไทม์ดู
ตอนแรกจะไปสมัครสฟรีที่พาราไดซ์กะว่าถ้าได้ ต้องได้กินไอติมฟรีแน่ๆ !
พอขึ้นไปถึงชั้น 4 พาราไดซ์ เท่านั้นแหละจ้ะ
ขออภัย กำลังปิดปรับปรุงโซนนี้
เงิบบบบบกันไป
ไม่มีการเตรียมตัวอะไรทั้งนั้น 55555555555 เกิดอาการมึนงง นี่ต้องทำอะไรต่อไป
เลยเดินลงมาชั้นล่าง หาอะไรกินก่อน แล้วกลับบ้านไปคิด
เเต่บังเอิ๊ญญญญ ผ่านไปเสวนเซ่นส์ เห็นเขากำลังติดประกาศว่ารับสมัครงาน
พุ่งตัวไปเลยจ้ะ นี่ขอให้ได้พอ งานอะไรก็ได้
ไปถึงก็ถามพี่ที่เคาน์เตอร์เลย ว่ารับสมัครงานใช่มั้ย จะมาสมัครงานพาร์ทไทม์
พี่เค้าก็จะมีเอกสารเเผ่นนึงมาให้เรากรอก
พอกรอกเสร็จ เขาก็ถามว่า ว่างมาทำงานวันไหน
(ตอนนั้นยังไม่ปิดเทอม ติดสอบอยู่ ก็เลยบอกพี่เขาไปว่า เริ่มได้ 4 มีนา )
พี่เขาก็ยิ้มๆ บอกใกล้ๆ เเล้วเดี๋ยวจะโทรไปเรียกมาสัมภาษณ์
เราก็รอจ้ะ ไม่คิดว่าจะหางานที่ไหนอีกเลย
555555555555555 สอบเสร็จ ก็นั่งรอ นอนรอโทรศัพท์
ตอนนั้นเพื่อก็ไซโค เห้ยยย เสวนเซ่นส์ไม่โอเค ทำงานหนักนะเเก
เพื่อนๆต่างทยอยชักนำว่า อย่าทำเลย ไม่ดีหรอก เเกรู้มั้ยว่ามันเป็นงี้ บลาๆๆ
เเต่เราก็ยังคงมุ่งมั่น เชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิด
จะทำงานไหน จะงานใหญ่ งานเล็ก มันก็ต้องเหนื่อยอยู่เเล้วเเหละ
เราไม่ได้ไปขอเงินเขาฟรีๆซักหน่อย
สู้!
ปรากฎว่าวันเเล้ว วันเล่าก็ผ่านไป จนถึงวันที่ 4 วันที่ควรจะเริ่มงาน
...
ไม่มีใครโทรเข้ามา
ไม่มีมิสคอล
ไม่มีอะไรเลย
สงบนิ่งสามนาที
รู้ชะตากรรมตัวเอง
(_ _) ไม่ได้งานเเน่ๆ
ก็ไม่เป็นไร ไม่ซีเรียส
ก็เเย่ละ ..
5555555555555555555555
การสมัครงานครั้งเเรก เฟลจ้ะ หงายเงิบ
เงิบอีกที
แต่ช่วงนั้นก็เป็นช่วงเดียวกับที่พี่โบ๊ทโพสต์ในเฟสบุ๊คว่าจะมีงานหนังสือ
ใครสนใจมาทำงานพาร์ทไทม์มั่ง เราก็เอาเลยยย
คุยกับพี่โบ๊ทเลย
เเล้วก็ส่งใบสมัครไปที่สำนักพิมพ์รอพี่เขาโทรมา
คุยเสร็จเเล้ว พี่เขาก็บอกว่าเเล้วจะติดต่อมาใหม่
ผ่านไปหลายวัน พี่เขาก็ติดต่อกลับมา ว่าจะนัดสัมภาษณ์ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
เราก็ไม่รู้ว่าเซ็นทรัลมันอยู่ไหน คิดเองเออเองว่าคงไม่ไกลมาก ตอบตกลงไปเลยทันที
เเต่พอโทรไปบอกเเม่เท่านั้นเเหละเเก
เเม่ถาม "ห๊าาา เซ็นทรัลปิ่นเกล้า หนูรู้มั้ยว่ามันอยู่ไกลคนละโลกเลยนะ"
ถือโทรศัพท์ออกห่างจากตัว
คิดในใจ มันไกลขนาดนั้นเลยเรอะ
ตกลงกับพี่เขาไปเเล้วด้วย 5555 ไม่กล้าปฏิเสธ กลัวจะไม่ได้งาน
เเต่เเม่ก็บอกว่า โอเคๆ เดี๋ยวจะไปส่ง
เราก็สบายใจ
พอถึงวันสัมภาษณ์จริงๆ เท่านั้นเเหละ
พี่เขานัด 11 โมง นี่ออกจากบ้านตั้งเเต่ก่อน 9 โมง
เผื่อเวลาไว้เลย 2 ชั่วโมง มันต้องทันเเน่ๆ
เเต่ฝนฟ้าก็เป็นใจมากจ้ะ พอถึงฝั่งธนฯ รถเริ่มติด
ขับไปอีกนิด ทางกำลังซ่อมสะพาน
เถิบไปอีกหน่อย ฝนตกหนักเเบบไม่ลืมหูไม่ลืมตาาาาา
ว๊อททททท!!!
(_ _) ร้อนรนมากจ้ะ กลัวไปสัมภาษณ์ไม่ทัน
นี่โทรไปบอกพี่เขาเลยว่า พี่คะ หนูอาจจะไปช้าหน่อย
กว่าจะบุกบ่าฝ่าฟันไปถึงที่หมาย นอกจากจะมาสายเเล้ว
ยังไม่พอ หลงทางในห้างด้วยจ้ะ (;____;)
เป็นห้างที่สลับซับซ้อนวกวนเว่อ ชั้นร้านอาหารมีร้านขายเฟอร์นิเจอร์เงี่ย
มันไม่ควรมาอยู่ด้วยกันป่ะเเก
เเต่สุดท้ายก็เจอพวกพี่ๆ หลังจากสายไปเกือบชั่วโมง
คนอื่นเขามาหมดเเล้ว
พี่เขาก็ถามว่ามาจากไหน เราก็บอกเขาไปว่า บางบ่อ
... ไม่มีใครรู้จัก
พี่โอ๊ตถามว่า มันอยู่แถวบางนาใช่มั้ย
นี่ไม่ใช่นะ บางบ่ออยู่เลยไปอีก
เลยไปแบบบบบบบ เกือบจะถึงเเปดริ้วเเล้วเเก ไกลเว่อ 555555
เเบบออกจากบ้านรถไม่ติด ครึ่งชั่วโมงก็ไปโผล่ชลบุรีได้
จากนั้น
เราก็เดินหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมเข้าไปฟังรายละเอียดงาน ประมาณ 15 นาที
เเล้ว... ก็กลับบ้านจ้ะ
นี่นึกว่าเขาจะมาสัมภาษณ์ไรต่อ 5555 ไม่มีนะ มีเเค่บอกรายละเอียดงาน
เเล้วสุดท้ายก็ได้งานจ้ะ ไปทำงานที่งานหนังสือ
มาถึงตรงนี้ พิมพ์มาเยอะมาก ยาวมาก
นี่เพิ่งผ่านไปครึ่งนึงของทั้งหมด
คนอะไรพูดมากขนาดนี้ (////_ _////)
เริ่มงานวันเเรก
29.03.2013
(นี่ผ่านมาเกือบเดือนเเล้วเพิ่งจะอัพบล๊อก โถถถถถถถถ)
ทำงานวันสุดท้าย
8.04.2013
จบ
#ไม่ใช่ละ นี่กะไม่เวิ่นเว้อยืดเยื้อเยอะเเยะนะ 5555555555555555
จะเล่าเเบบรวมๆ ให้ฟัง เผื่อใครสนใจ
ก็ทุกวันก็จะไปถึงศูนย์สิริกิตติ์ ก่อน 9 โมง
เราจะเริ่มรวมตัวกัน 9 โมง ที่บูธรักพิมพ์ มีอยู่สองบูธน้า โซน A กับ D
ก่อนหน้านั้นก็ไปกินข้าวตามสบาย พวกศูนย์อาหาร เช้าๆก็เริ่มเปิดเเล้ว เเอร์เย็น
อาหารอร่อยดี กาเเฟนี่เลิศ อร่อยกว่า Amazon พูดเลย
เเตาราคาก็โหดนะ อย่างกาเเฟก็เเก้วละ 65 เเล้ว
ราคาอาหารก็น้องๆเอเเบคเลย เเต่อร่อยกว่า 5555555
โนข้าวไมโครเวฟแบบเอเเบคนะจ๊ะ!
พอเริ่มงาน 9 โมง วันเเรกก็จะรวมตัวกันที่บูธ Z20 โซน D
พี่เขาก็จะเทรนด์ให้ก่อน โดยบอกหน้าที่ว่า วันนี้ทำอะไร
วันเเรกสมายได้ โปรโมทบูธ
สารภาพว่า... ไม่เคยอ่านหนังสือของสำนักพิมพ์นี้เลย ถถถถถถถ
ก่อนมาทำงานนี่ได้เข้าเว็บของสำนักพิมพ์ โชคดีดูถูกจุด
ได้อ่านโปรโมชั่นกับหนังสือที่ออกใหม่มาบ้าง
อ่านเเล้ว จำโปรโมชั่นได้ เเต่ชื่อหนังสือยังคงเฟลลล
พอรู้เรื่อง นิดโหน่ยย
งานหนังสือก็จะเปิดประตูตอน 10 โมง
พอประตูเปิดเท่านั้นเเหละ
พายุโหมกระหน่ำ ทุกคนวิ่งกรูมาที่ชั้น รุมหยิบหนังสือเเบบเอาเป็นเอาตาย
วิ่งวุ่นสุดๆ พยายามตอบคำถามลูกค้าเท่าที่จะตอบได้ ยิ้มสยามสุดๆ
เราก็เต็มที่กับงาน เเล้วพอถึงเวลาพักก็กินข้าว
เเล้วก็กลับไปทำงานต่อ
คอยดูเเลลูกค้า จะไม่ค่อยได้นั่งเฉยๆ
ทุกๆวันก็จะเป็นประมาณนี้
ช่วงวันเเรกๆ คนก็จะมาเยอะหน่อย เพราะมีของลิมิเตดออกมา
เเล้วช่วงวันสุดท้ายคนก็จะเยอะอีก อารมณ์แบบ หมดงานหนังสือเเล้ว
ไม่มีลดราคาเยอะๆเเล้ว ไม่มีโปรโมชั่นดีๆเเล้วนะ
เเล้วที่รู้สึกดีมากที่สุดคือ เพื่อน พี่ น้อง ที่รู้จัก
ในทวิตเตอร์ มาหากันหลายคนเลย ทั้งพี่ฝน น้องป๊อป น้องเเตร น้องปัด น้องเเอม
ด๊ใจที่สุดเลยยยยย <3
ขอบคุณนะค๊า ชุ้บบชุ้บบบ
วันที่พี่ฝนมาหา ถ่ายรูปเล่นไปสิบแปดล้านชอต 555555
พี่ฝนน่ารัก ใจดีด้วย (ได้กินไอติมฟรี ฮี่ฮี่ เยิ้ปปปเลย)
วันอื่นๆเราก็สนุกสนานกันไป หน้าที่ก็ลองทำมาหมด
ทั้งโปรโมท เเคชเชียร์ ของเเถม เติมสต๊อก
มันเป็นการฝึกเราหลายๆอย่างเลย ตั้งเเต่ความอดทน ความเร็ว ว่องไว
ความจำด้วย ต้องจำราคาหนังสือที่ลดเเล้ว จำชื่อหนังสือ
รู้จักสังเกต คอยเทคเเคร์ลูกค้า
ถามว่าเหนื่อยมั้ย มันก็เหนื่อยนะ งานหนังสือ 11 วัน
สมายได้หยุดพัก 1 วัน 555555
เเต่ ทุ่ม 10 วันนี้ให้เต็มที่ ได้ประสบการณ์ ได้เพื่อนเพิ่ม
ที่สำคัญ คือ น้ำหนักลดดดดดดดดด
เเละเก้าอี้กระดาษ 555555 เคยเห็นกันใช่มั้ย ที่เค้าจะจัดไว้ให้นั่งในงานหนังสือ
สมายไปขนกลับบ้าน 8 ตัวค่ะ
ต้องให้พี่โจช่วยเลาะเก้าอี้ ให้พี่เก้าช่วยเเบกไปที่รถ <3
เเละเก้าอี้กระดาษ 555555 เคยเห็นกันใช่มั้ย ที่เค้าจะจัดไว้ให้นั่งในงานหนังสือ
สมายไปขนกลับบ้าน 8 ตัวค่ะ
ต้องให้พี่โจช่วยเลาะเก้าอี้ ให้พี่เก้าช่วยเเบกไปที่รถ <3
พูดเลยว่าคุ้มมาก คุ้มกับที่เราเหนื่อยทำลงไป
ก็ไม่มีอะไร งานหนังสือก็จบเท่านี้
____________________________________
____________________________________
เเต่ยังไม่หมด มีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีก 55555555
มีอีกล้านเเปดเเสนเรื่อง
มีอีกล้านเเปดเเสนเรื่อง
งานหนังสือเกือบวันสุดท้าย ประจวบกับเกรดวิชาคณะออก
เกรดบุ๊คดีไซน์ออก เป็นอะไรที่ลุ้นมาก
ไม่ลุ้นได้ยังไง ตอนสอบไปนี่ได้ 34 เต็ม 100
โหดป่ะเเก ว่าข้อสอบโหดเเล้ว คนทำโหดกว่า
นี่ทำได้ยังไงงงงงง
34 ยังไม่ถึงครึ่งเลยนะเเก (_ _)
ถ้าไม่สอบเหมือนกัน พวกนายไม่เข้าใจหรอกกกกกก
กับการจำชื่อศิลปิน ยุคสมัย T T ทั้ง movement ทั้ง แนวของศิลปะ
เจอข้อสอบเเทบใบ้กิน ว่าด้วยเรื่อง History of Graphic Design
ชื่อศิลปินเเต่ละคนนี่อ่านออกยังยากเลย มีทั้งญี่ปุ่น ฝรั่งเศส
ข้อสอบสีด้วย ไม่มีช้อยส์นะ ร้อยข้อ เติมคำหมด อังกฤษล้วน
พูดได้คำเดียวว่า ตายจ้ะ
เเต่เกรดออกมาได้
B- (คะเเนนเฉลี่ย 70-74)
นับว่าอาจารย์ยังปราณี เเทบจัดปาร์ตี้ฉลอง
วิชาคณะ จะตัด A ที่ 90 นะ ยังไม่เคยได้เลย สูงสุดก็ A-
ได้ตัวเดียวด้วย นอกนั้นเกรดคงนิ่งอยู่ที่ B B- B+
5555555555
เเต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ผ่านทุกตัว
เอ่า เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
เเล้วยังมีอีก ปิดเทอมไปทำใบขับขี่มาฮ๊า สอบไปสามรอบได้
รอบเเรกเเม่พาไป ข้อเขียนได้ 29 เต็ม 30 ได้ใจค่ะ ได้ใจ สอบปฎิบัติต้องผ่านเเน่
ปรากฏว่าผ่านไปสองท่า ตกม้าตายท่าที่สอง สอบเทียบ 555555555555
ไม่เป็นไร รอบสองไปใหม่ คราวนี้นอตพาไป
♥
ขับไปพาตั้งเเต่ตีห้า ไปลุ้น ให้กำลังเต็มที่ เเต่ก็ไม่ผ่าน คราวนี้ร้องไห้งอเเงเลย
นอตปลอบไม่ถูก บอกเเต่ว่าไม่เป็นไรนะ ไว้พามาใหม่
55555555
รอบสุดท้ายป๊าพาไป คราวนี้ไม่ให้มาลุ้นเเล้ว ให้ป๊านั่งอยู่ในร้านกาเเฟข้างๆ
ปรากฎว่า ผ่านจ้าาา ได้ใบขับขี่มาเเย้วววว
เเล้วยังมีอีก ปิดเทอมไปทำใบขับขี่มาฮ๊า สอบไปสามรอบได้
รอบเเรกเเม่พาไป ข้อเขียนได้ 29 เต็ม 30 ได้ใจค่ะ ได้ใจ สอบปฎิบัติต้องผ่านเเน่
ปรากฏว่าผ่านไปสองท่า ตกม้าตายท่าที่สอง สอบเทียบ 555555555555
ไม่เป็นไร รอบสองไปใหม่ คราวนี้นอตพาไป
♥
ขับไปพาตั้งเเต่ตีห้า ไปลุ้น ให้กำลังเต็มที่ เเต่ก็ไม่ผ่าน คราวนี้ร้องไห้งอเเงเลย
นอตปลอบไม่ถูก บอกเเต่ว่าไม่เป็นไรนะ ไว้พามาใหม่
55555555
รอบสุดท้ายป๊าพาไป คราวนี้ไม่ให้มาลุ้นเเล้ว ให้ป๊านั่งอยู่ในร้านกาเเฟข้างๆ
ปรากฎว่า ผ่านจ้าาา ได้ใบขับขี่มาเเย้วววว
คราวนี้ถูกเเม่ให้ไปส่งน้องทุกวันตอนเช้า!
จากสบายเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย อ่อนเปลี้ยเพลียเเรงขึ้นมาทันที 5555555
________________________________
มีอีกเรื่องมาเล่า
พอหมดปิดเทอมนี้ก็ใกล้จะเป็นเด็กปีสามเต็มตัว
จากสบายเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย อ่อนเปลี้ยเพลียเเรงขึ้นมาทันที 5555555
________________________________
มีอีกเรื่องมาเล่า
พอหมดปิดเทอมนี้ก็ใกล้จะเป็นเด็กปีสามเต็มตัว
เริ่มรู้จักรักสวยรักงาม
ผ่านงานหนังสือรู้ตัวเลย โทรมสุด ตื่นเช้า นอนดึก สิวขึ้น หน้าหมองคล้ำ
ต้องกลับมาฟื้นฟูบำรุงตัวเอง
อย่างเเรกเลยคือนอน
นอนตีสอง ตื่นบ่ายสามงี้ ไม่เอานะ 5555555555555 อย่าเลียนเเบบ
นอนให้ไวหน่อย สัก 4 ทุ่ม ตื่นก็ 9 โมง อย่างงี้โอเค
เเต่พูดไปเถอะ ยังทำไม่ได้ 55555555555555
ที่ทำได้ตอนนี้ก็มี ทาครีมทั้งที่หน้า ทั้งที่ตัว
ทาถู ทาถู โบกเข้าไปจนกว่าตัวจะนิ่มเเละขาว
มาส์กหน้า ขัดตัวงี้ เอาหมด ทำทุกวิถีทาง
จากผิวเเห้งๆก็ดีขึ้น ขาวขึ้น
หน้าก็บลิ้งขึ้น ทุกอย่างโอเคขึ้น
เเต่ก็จะมีปัญหานึงเกิดขึ้นประจำ คือปากแห้ง กินน้ำเยอะๆ ก็ดีขึ้นเเต่ก็ไม่หาย
จากเป็นคนปากแตก ปากเเห้ง เป็นขุย
เเล้วชอบไปเเกะมันไง เลือดออกอีก ซิบๆเลย
ตอนนี้มีไอเท็มใหม่มานำเสนอ จะรีวิวให้อ่านกันแบบละเอียดยิบย่อยมาก
ไอเท็มชิ้นนี้ได้มาจากปู่เนียโม
ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะพร้าว ว๊าว ว๊าว ที่ปู่เเกทำเอง ขายเอง
ส่งให้หลานใช้เอง 55555555
ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะพร้าว ว๊าว ว๊าว ที่ปู่เเกทำเอง ขายเอง
ส่งให้หลานใช้เอง 55555555
"ลิปบาล์มน้ำมันมะพร้าวน้ำหอมเเท้คุณภาพดี เกรดพรีเมียม ผสมคุณค่าน้ำมันสกัดจากกุหลาบ"
Natiive Coco Lip (Rose series)
Natiive Coco Lip (Rose series)
กับ
"ลิปบาล์มน้ำมันมะพร้าวน้ำหอมเเท้คุณภาพดี เกรดพรีเมียม ผสมคุณค่าน้ำมันสกัดจากผล lime"
Natiive Coco Lip (Lime Aroma)
นี่พูดออกมาคำเเรกเลยหลังจากเปิดกล่องพัสดุเเล้วหยิบกระปุกลิปมันออกมา
ชื่อยาวววววววววววววไปถึงไหนนนนนนนนนนนนนน
เลยสรุปเอาง่ายว่า
มีลิปบาล์มกุหลาบ กับลิปบาล์มมะนาว
(///_ _///)
ในเมื่อมีสองอัน เราจะรีวิวไปพร้อมๆกัน
อันนี้จะเป็นด้านบนของกระปุก ก็จะบอกชื่อที่ยาวย๊าวยาว
บอกวิธีใช้: ทาริมฝีปากเพื่อความชุ่มชื่น
อย่ากินนะ ไม่อันตรายหรอก เเต่หมดเร็ว 55555555555
นี่ก็ทาไปชอบเลียไป ปรากฎว่าหมดจ้าาาา ทาเเปบเดียวหมด เเปบเดียวหมด
ไม่ใช่ว่าลิประเหยนะ แต่ลิปเข้าไปอยู่ในท้องหมดจ้า
เเละส่วนประกอบ
กุหลาบ : Cocos Nucifera Oil(ตัวนี้คงเป็นน้ำมันมะพร้าว), Cl 45410(คิดว่าคงเป็นน้ำมันสกัดจากกุหลาบ)
อันนี้จะเป็นด้านบนของกระปุก ก็จะบอกชื่อที่ยาวย๊าวยาว
บอกวิธีใช้: ทาริมฝีปากเพื่อความชุ่มชื่น
อย่ากินนะ ไม่อันตรายหรอก เเต่หมดเร็ว 55555555555
นี่ก็ทาไปชอบเลียไป ปรากฎว่าหมดจ้าาาา ทาเเปบเดียวหมด เเปบเดียวหมด
ไม่ใช่ว่าลิประเหยนะ แต่ลิปเข้าไปอยู่ในท้องหมดจ้า
เเละส่วนประกอบ
กุหลาบ : Cocos Nucifera Oil(ตัวนี้คงเป็นน้ำมันมะพร้าว), Cl 45410(คิดว่าคงเป็นน้ำมันสกัดจากกุหลาบ)
มะนาว : Cocos Nucifera Oil(ตัวนี้คงเป็นน้ำมันมะพร้าว),
Cittrus Medica Limonum Peel Oil(คิดว่าคงเป็นน้ำมันสกัดจากมะนาว)
Cittrus Medica Limonum Peel Oil(คิดว่าคงเป็นน้ำมันสกัดจากมะนาว)
เเล้วก็จะมีบอกว่า ผลิตจากไหน จำหน่ายโดยใคร ปริมาตร 5 กรัมนะ
มีเว็บติดต่อกับ เลขที่ใบเเจ้ง
ตรงนี้ไม่ชอบที่ตัวหนังสือเล็กไป พอเอามารีวิวเเล้วสังเกตเลยว่า
บางตัวอ่านยากมากกกกกกกก เล็กไปมากก 5555555 เเต่ก็โอเค ยังพออ่านไหวอยู่
พอพลิกกระปุกก็จะเจอวันผลิต เเละวันหมดอายุว่า
ผลิตวันที่ 1.02.13
นับมาถึงวันนี้นี่เพิ่งผลิตออกมาไม่กี่เดือนเอง วันหมดอายุก็นู่นนน อีก 2 ปีเเน่ะ
กระปุกก็น่ารักดูเงินๆ เงาๆ ดี
พอเปิดกระปุกมาจะเจอ แผ่นปิดขาวๆ ไม่ใช่เเผ่นพลาสติกบางๆนะฮ๊า
เป็นเเผ่นพลาสติกเเข็ง กันลิปเหลว กระฉอกออกมา (รึเปล่าไม่รู้)
55555555555
เเต่ที่รู้คือ ชอบ เพราะมันจะมีตัวกั้นเอาไว้ ที่เเบบ
เเปะเเล้วไม่เลื่อนออกจากฝากระปุก
ตัวลิปของทั้งสองกระปุกจะเหมือนกัน
เวลาทาเเล้วจะมีกลิ่นหอมๆ หอมน่ากิน หอมเหมือนเทียนหอมเเต่ไม่ฉุน
ว่าเเล้วก็เลียเเพร่บ #ผิด 55555555555
ชอบกลิ่นทั้งสองกระปุกเลย กุหลาบก็หอมหวานๆ
มะนาวก็หอมเเบบสดชื่น
นี่ลองวอร์มบนมือให้ดู เห็นมั้ยยยย ไม่เเตกต่างกันเลย
ทาเเล้วจะเงาๆ ตัวเนื้อลิปจะบางๆ ไม่หนักเหมือนวาสลีนที่ทาก้นเด็ก
ไม่มีสี มีเเต่กลิ่น
นี่ลองใช้มานานเหมือนกัน เป็นเดือน เเต่จะหมดละ ไม่น้อยนะ
เเต่สมายเน้นหนักไปทางกินลิป 5555555
สมายใช้กุหลาบ ส่วนมะนาวให้เเม่ไปลองใช้ดู
วันนี้หลักจากลองเอง ทาเอง เอออออ ปากนุ่มน่าจุ้บบ
ไม่เเห้ง ไม่เเตก ไม่ลอกเเล้ว ลองไม่ทาสามวัน
ปากยังนุ่มอยู่เลย
ก่อนหน้านี้ใช้ลิปของ skinfood เป็นลิปรูปโถน้ำผึ้ง ใช้จนเกือบบบบหมดเเล้ว
คอนเฟิร์มว่า ใช้เเล้วปากไม่นุ่มเท่าตัวนี้
อีกตัวเป็นลิปกลอสกุหลาบ กลิ่นนี่ก็เเรงจัง
ทาเเล้วเหมือนปลูกไร่กุหลาบบนปาก อันนี้ไม่ได้ถ่ายมาให้ดู
พอไม่ทาติดๆกัน สักพักปากจะเเห้งเหมือนเดิม (_ _)
วาสลีนก็หนักไปหน่อย ทาเเล้วเหมือนกินไก่มา
ลิปบาล์มอันนี้ทาเเล้วทาลิปสติกทับได้
ปกติจะทาลิปสติกเเล้วทากลอสทับ อันนี้ทาลิปลงก่อนเเล้วทาลิปสติกได้เเล้ว ปากจะนุ่มเเล้วก็มีมีสัน
ฮี่ฮี่ เวิ๊กกก ชอบบบ
เเต่จะชอบกว่านี้ ถ้าอีกหน่อยทำออกมาเป็นลิปแท่งๆ
เเบบกระปุก เวลาไปไหนมาไหน พกไปลำบาก ใส่กระเป๋ากางเกงเเล้วมันตุง
จะใช้ก็จะลำบาก เพราะมันต้องเปิดฝา เอาเเผ่นพลาสติกออก
เเล้วต้องใช้นิ้วทา ละถ้ามือสกปรกอยู่ ปากก็สกปรกด้วย กินเข้าไปด้วย ก็จบเห่
จบ
อ่าว จบง่ายๆงี้เลย 55555555555555555555555555555
มีเรื่องสวยๆงามอีกเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง
(นี่ก็เรื่องเล่าเยอพจริงเนาะะะะ 5555555555555555)
วันก่อนไปซื้อสติ๊กเกอร์ติดตาสองชั้นมา
เมื่อคืนนี้ก็ติดเเล้วส่งรูปไปให้นอตดู
________________________________
เเก มันไม่มีอะไรอัพเเล้ว เดี๋ยวคราวหน้าจะมาเรื่องคิขุน่ารักๆ
จะสอนเเเกะยางลบ 5555
มาสอนทำเดคูพาจด้วย
เอาเทปมาเล่นงี้
เเล้วเจอกันน้าทู๊กกกกกกคนนนนนนน
บ๊ายบาย จุ้บบจุ้บบ
สวัสดีค่ะ <3
มีเว็บติดต่อกับ เลขที่ใบเเจ้ง
ตรงนี้ไม่ชอบที่ตัวหนังสือเล็กไป พอเอามารีวิวเเล้วสังเกตเลยว่า
บางตัวอ่านยากมากกกกกกกก เล็กไปมากก 5555555 เเต่ก็โอเค ยังพออ่านไหวอยู่
พอพลิกกระปุกก็จะเจอวันผลิต เเละวันหมดอายุว่า
ผลิตวันที่ 1.02.13
นับมาถึงวันนี้นี่เพิ่งผลิตออกมาไม่กี่เดือนเอง วันหมดอายุก็นู่นนน อีก 2 ปีเเน่ะ
กระปุกก็น่ารักดูเงินๆ เงาๆ ดี
พอเปิดกระปุกมาจะเจอ แผ่นปิดขาวๆ ไม่ใช่เเผ่นพลาสติกบางๆนะฮ๊า
เป็นเเผ่นพลาสติกเเข็ง กันลิปเหลว กระฉอกออกมา (รึเปล่าไม่รู้)
55555555555
เเต่ที่รู้คือ ชอบ เพราะมันจะมีตัวกั้นเอาไว้ ที่เเบบ
ตัวลิปของทั้งสองกระปุกจะเหมือนกัน
เวลาทาเเล้วจะมีกลิ่นหอมๆ หอมน่ากิน หอมเหมือนเทียนหอมเเต่ไม่ฉุน
ว่าเเล้วก็เลียเเพร่บ #ผิด 55555555555
ชอบกลิ่นทั้งสองกระปุกเลย กุหลาบก็หอมหวานๆ
มะนาวก็หอมเเบบสดชื่น
นี่ลองวอร์มบนมือให้ดู เห็นมั้ยยยย ไม่เเตกต่างกันเลย
ทาเเล้วจะเงาๆ ตัวเนื้อลิปจะบางๆ ไม่หนักเหมือนวาสลีนที่ทาก้นเด็ก
ไม่มีสี มีเเต่กลิ่น
นี่ลองใช้มานานเหมือนกัน เป็นเดือน เเต่จะหมดละ ไม่น้อยนะ
เเต่สมายเน้นหนักไปทางกินลิป 5555555
สมายใช้กุหลาบ ส่วนมะนาวให้เเม่ไปลองใช้ดู
วันนี้หลักจากลองเอง ทาเอง เอออออ ปากนุ่มน่าจุ้บบ
ไม่เเห้ง ไม่เเตก ไม่ลอกเเล้ว ลองไม่ทาสามวัน
ปากยังนุ่มอยู่เลย
ก่อนหน้านี้ใช้ลิปของ skinfood เป็นลิปรูปโถน้ำผึ้ง ใช้จนเกือบบบบหมดเเล้ว
คอนเฟิร์มว่า ใช้เเล้วปากไม่นุ่มเท่าตัวนี้
อีกตัวเป็นลิปกลอสกุหลาบ กลิ่นนี่ก็เเรงจัง
ทาเเล้วเหมือนปลูกไร่กุหลาบบนปาก อันนี้ไม่ได้ถ่ายมาให้ดู
พอไม่ทาติดๆกัน สักพักปากจะเเห้งเหมือนเดิม (_ _)
วาสลีนก็หนักไปหน่อย ทาเเล้วเหมือนกินไก่มา
ลิปบาล์มอันนี้ทาเเล้วทาลิปสติกทับได้
ปกติจะทาลิปสติกเเล้วทากลอสทับ อันนี้ทาลิปลงก่อนเเล้วทาลิปสติกได้เเล้ว ปากจะนุ่มเเล้วก็มีมีสัน
ฮี่ฮี่ เวิ๊กกก ชอบบบ
เเต่จะชอบกว่านี้ ถ้าอีกหน่อยทำออกมาเป็นลิปแท่งๆ
เเบบกระปุก เวลาไปไหนมาไหน พกไปลำบาก ใส่กระเป๋ากางเกงเเล้วมันตุง
จะใช้ก็จะลำบาก เพราะมันต้องเปิดฝา เอาเเผ่นพลาสติกออก
เเล้วต้องใช้นิ้วทา ละถ้ามือสกปรกอยู่ ปากก็สกปรกด้วย กินเข้าไปด้วย ก็จบเห่
จบ
อ่าว จบง่ายๆงี้เลย 55555555555555555555555555555
มีเรื่องสวยๆงามอีกเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง
(นี่ก็เรื่องเล่าเยอพจริงเนาะะะะ 5555555555555555)
วันก่อนไปซื้อสติ๊กเกอร์ติดตาสองชั้นมา
เมื่อคืนนี้ก็ติดเเล้วส่งรูปไปให้นอตดู
สมาย : ทายซิ อะไรเปลี่ยนไปปปปปป
นอต : ความรักที่เค้ามีให้มากขึ้นกว่าเดิม
สมาย : ผิด อะไรเปลี่ยนไป
นอต: ตาบวม 55555555555
สมาย : ผิดดดด (;___________;)
นี่ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น ไม่ได้ตาบวม เสียจึยยย
________________________________
เเก มันไม่มีอะไรอัพเเล้ว เดี๋ยวคราวหน้าจะมาเรื่องคิขุน่ารักๆ
จะสอนเเเกะยางลบ 5555
มาสอนทำเดคูพาจด้วย
เอาเทปมาเล่นงี้
เเล้วเจอกันน้าทู๊กกกกกกคนนนนนนน
บ๊ายบาย จุ้บบจุ้บบ
สวัสดีค่ะ <3
A little love - Meaghan Smith
<3
ReplyDelete